
ในยุคปัจจุบัน ฝุ่น PM 2.5 ถือว่าเป็นวายร้ายที่มาทำให้คุณภาพอากาศแทบทุกที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่า “เครื่องฟอกอากาศ” ได้กลายเป็นอุปกรณ์ที่หลายบ้าน, สำนักงาน หรือสถานที่สาธารณะจำเป็นต้องมี ซึ่งใคร ๆ ก็ต้องซื้อติดเอาไว้ เพื่อที่จะรับอากาศที่บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อปกป้องสุขภาพของเราจากฝุ่น PM 2.5 หรือสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดโปร่งสำหรับการใช้ชีวิต แต่ทุกคนรู้หรือไม่ว่าเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เคยมีแนวคิดของเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ที่สามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้ทั้งเมือง ?

ย้อนกลับไปในปี 2015 หรือ 10 ปีที่เเล้ว ได้มีการเปิดตัว Smog Free Tower หอคอยฟอกอากาศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Daan Roosegaarde ศิลปินและนักออกแบบชาวดัตช์จาก Studio Roosegaarde หอคอยนี้เปิดตัวครั้งแรกในเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยได้รับการสนับสนุนจากแคมเปญ Kickstarter โดย Smog Free Tower ถือว่าเป็นทั้งผลงานการออกแบบเเละนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบจริงในการลดมลพิษทางอากาศ ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความสวยงามของงานศิลปะผลงานชิ้นนี้ ถือว่าเป็นต้นแบบของการแก้ปัญหามลพิษในเมืองใหญ่ พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมอีกมากมายในปัจจุบันอีกด้วย

ด้วยความสูง 7 เมตรและรูปทรงมีความล้ำสมัย Smog Free Tower สามารถฟอกอากาศได้ถึง 30,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง โดยใช้พลังงานเพียง 1,400 วัตต์ หรือเทียบเท่ากับเครื่องต้มน้ำร้อนหนึ่งเครื่อง ซึ่งสามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5 และ PM10) ที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคทางเดินหายใจหรือโรคหัวใจ
“Smog Free Tower ช่วยสร้างพื้นที่อากาศบริสุทธิ์ในเขตเมือง ให้ผู้คนได้สัมผัสอากาศสะอาดโดยไม่มีค่าใช้จ่าย” Roosegaarde ได้กล่าวในวันเปิดตัว เท่าก็คือได้รับอาากาศบริสุทธิ์ ไป ฟรี ๆ นั่นเอง (เห็นเเบบนี้เเล้วอยากตั้งไว้ที่ประเทศไทยกันเลยทีเดียว)



นวัตกรรมและผลงานการออกแบบที่ได้ผสมผสานให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีที่ใช้ในหอคอยนี้คือระบบ ไอออไนเซชัน ซึ่งทำงานคล้ายกับเครื่องฟอกอากาศในโรงพยาบาล โดยดูดอากาศเสียผ่านด้านบน ดักจับฝุ่นละอองด้วยประจุไฟฟ้า และปล่อยอากาศสะอาดออกมาทางช่องระบายรอบตัวหอคอย ผลลัพธ์คือการสร้าง “ฟองอากาศบริสุทธิ์” ในพื้นที่รอบข้าง

และอีกจุดที่น่าสนใจคือ ฝุ่นละอองที่ถูกดักจับภายในเครื่องนั้นไม่ได้ถูกทิ้งไปไหน แต่ถูกนำมาบีบอัดจนกลายเป็น “Smog Free Jewelry” ซึ่งรวมถึงแหวนและกระดุมข้อมือ โดยเครื่องประดับหนึ่งชิ้นสามารถดักจับฝุ่นละอองได้จากอากาศมากกว่า 1,000 ลูกบาศก์เมตร ไม่เพียงแต่เพิ่มคุณค่า แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความหวัง การเตือนใจและการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยาวนานอีกด้วย




ปัญหา PM 2.5 กับความสำคัญของอากาศบริสุทธิ์ในปัจจุบัน
ณ ตอนนี้ โลกยังคงเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ที่กลายเป็นปัญหาหนักในเมืองใหญ่ ๆ อย่าง ปักกิ่ง ปารีส และกรุงเทพฯ ในบางช่วงของปี ค่าฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพฯ และเชียงใหม่ก็พุ่งสูงจนกลายเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว

ถึงแม้ประเทศไทยจะยังหาวิธีรับมือกับปัญหานี้อยู่ Smog Free Tower กลับเป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้เทคโนโลยีและการออกแบบในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ที่ไม่เพียงแต่ทำให้บรรยากาศสะอาดขึ้น แต่ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบพื้นที่ฟอกอากาศในเมืองต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งการแปรรูปมลพิษให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า หากประเทศไทยนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ เช่น การสร้าง หอคอยฟอกอากาศ ในเมืองใหญ่ หรือการสนับสนุนงานออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาพของผู้คนได้มากยิ่งขึ้น



แล้วถ้าหากในประเทศไทย ได้ลองหาแนวทางการรับมือและการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือโซลูชัน ที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถรับมือและป้องกันตนเองจากฝุ่น PM 2.5 ได้ดียิ่งขึ้นล่ะ จะออกมาเป็นแบบไหน เชิญชมต่อได้ที่วิดีโอด้านล่างนี้เลย
ชมวิดีโอ สู้ฝุ่น PM 2.5 ด้วยไอเดียสุดสร้างสรรค์ | Design Challenge
อ้างอิง: Dezeen, Inhabitat , Studio Roosegaarde